วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความสำคัญของการเรียนรู้

            ชาญชัย อินทรประวัติ (http://www.kroobannok.com/blog/45566) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการเรียนรู้ไว้ว่า 4 หลักการสำคัญของการเรียนรู้          
                1. ผู้เรียนควรจะมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างจริงจัง (Active Participation)หมายความว่า เมื่อครูสอนนักเรียนก็จะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมการสอนของครูทั้งกายและใจ นักเรียนที่นั่งเหม่อลอยหรือนั่งหลับในขณะที่ครูสอนถือว่าไม่มีส่วนร่วมมากนัก นักเรียนที่ไม่ยอมคิดเมื่อครูถามคำถามก็ถือว่า ไม่มีส่วนร่วมในการเรียนการสอน นักเรียนที่ลอกการบ้านเพื่อนแทนที่จะทำเอง ถือว่ามีส่วนร่วมเหมือนกันแต่ไม่เข้าขั้น    active นักเรียนที่เข้าห้องปฏิบัติการแต่ไม่ยอมทำอะไรเองคอยอาศัยแต่เพื่อน ก็ถือว่าไม่มีส่วนร่วมอย่างจริงจังเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เองผู้หลักผู้ใหญ่สมัยก่อนเขาจึงสอนเด็ก ๆ ว่า “จะต้องเป็นคนเอาตาดู เอาหูฟัง และเอาใจใส่” กับเรื่องรอบ ๆ ตัว จึงจะเฉลียวฉลาดทันคน                                                                                                                                                 2. ผู้เรียนควรจะได้เรียนรู้ทีละขั้นทีละตอนจากง่ายไปสู่ยากและจากไม่ซับซ้อนไปสู่รูปที่ซับซ้อน (Gradual approximation) ตัวอย่างเช่น เด็ก ๆ ต้องบวกลบเลขเป็นเสียก่อนจึงจะสามารถเรียนรู้การคูณและการหาร คนเราต้องพูดเป็นคำ ๆ ได้เสียก่อนจึงจะสามารถพูดเป็นประโยคได้ หรือต้องเดินให้ได้เสียก่อน แล้วจึงวิ่งค่อยเหยาะ ๆ จากนั้นจึงวิ่งเร็ว ๆ เช่นนี้เป็นต้น ครูที่หวังจะสอนนักเรียนให้เกิดการเรียนรู้จึงต้อง รู้จักแบ่งเนื้อหา และจัดลำดับเนื้อหาตามความยากง่าย แล้วจึงนำมาสอนทีละขั้นทีละตอนอย่างเหมาะสม   
                  3.  ให้นักเรียนได้รับข้อมูลย้อนกลับที่เหมาะสมและไม่เนิ่นนานจนเกินไป (Immediate feedback) เมื่อนักเรียนได้ทำกิจกรรมตามคำแนะนำหรือคำสั่งของครูไป แล้วเขาก็มักอยากจะ รู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องแล้วหรือยัง ถ้าเขาได้รับข้อมูลย้อนกลับทันการและเหมาะสมเขาก็จะเกิดการเรียนรู้ ที่ดีรวมทั้งเกิดความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ต่อไป แต่ถ้าเขาไม่ได้รับข้อมูลย้อนกลับหรือต้องคอยเป็นเวลานานจึงจะได้รับเขาจะเกิดการเรียนรู้น้อย และในขณะเดียวกันความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ก็จะมีไม่                                                                                                                                            4.  การเสริมแรงหรือให้กำลังใจที่เหมาะสม (Appropriate Reinforcement)ผู้เรียนทุกคนไม่ว่าอายุมากหรืออายุน้อย ไม่ว่าหญิงหรือชาย ล้วนต้องการกำลังใจหรือการเสริมแรงเพื่อให้ฟันฝ่าอุปสรรค แสวงหาความรู้ต่อไป ซึ่งการให้กำลังใจของครูอาจจะกระทำได้หลายวิธีด้วยกัน
                  พงษ์พันธุ์  พงษ์โสภา (2542: 79)ได้กล่าวถึงความสำคัญของการเรียนรู้ไว้คือ การเรียนรู้ (Learning) เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของชีวิต การเรียนรู้จะช่วยให้คนเราสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตหรือสามารถปรับสิ่งแวดล้อมให้เข้ากับตัวเราได้แวดล้อมให้เข้ากับตัวเราได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น คนเราจึงต้องมีการเรียนรู้อยู่เสมอและเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ด้วยเหตุนี้เอง นักจิตวิทยา ครู อาจารย์ ตลอดถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงของการศึกษา จึงให้ความสนใจเรื่องของการเรียนรู้เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เพราะชีวิตความเป็นอยู่ และการประพฤติของคนเราจะเป็นไปในรูปแบบใด ย่อมขึ้นอยู่กับการเรียนรู้เป็นสำคัญ
                วารินทร์ สายโอบเอื้อ (2529:42)ได้กล่าวถึงความสำคัญของการเรียนรู้ไว้ดังนี้ ลักษณะที่สำคัญของการเรียนรู้                                 
               1. การเรียนรู้เป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเปลี่ยนแง่ดี หรือไม่ได้ก็ได้ ดังนั้น การเรียนรู้จึงมีความหมายกว้างกว่า การศึกษา เพราะการศึกษานั้นเป็นการจัดระบบการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนรู้เปลี่ยนพฤติกรรมไปในที่ดี   การศึกษาจึงหมายเฉพาะด้านดีเท่านั้น ส่วนการเรียนรู้อาจเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีหรือไม่ดีก็ได้
               2. การเรียนรู้จะต้องเป็นผลมาจากประสบการณ์หรือการฝึกหัด ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย เช่น อ้วนขึ้น ผอมลง สูงขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเป็นไข้ ติดเชื้อบางอย่างหรือร่างกายได้รับบาดเจ็บ หรือพิการ ไม่ถือว่าเป็นการเรียนรู้
               3. การเปลี่ยนแปลงที่เนื่องมาจากการเรียนรู้นั้นจะต้องมีลักษณะค่อนข้างถาวร คือมีความคงทนเป็นระยะเวลานาน ดั้งนั้นการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง เช่น ความเหนื่อย การติดเชื้อบางอย่าง การเปลี่ยนแปลงเพราะฤทธิ์ของยา จึงไม่ใช่การเรียนรู้ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวเท่านั้นดังได้กล่าวมาแล้วว่าขบวนการเรียนรู้มีลักษณะเช่นเดียวกับขบวนการพัฒนาการ กล่าวคือ เป็นในลักษณะเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ และความสำคัญในการกระทำกิจกรรมต่างๆซึ่งเป็นขบวนการที่ต่อเนื่องสะสมกันไปตลอดชีวิต ดังนั้น พฤติกรรมและความสามารถด้านต่างๆของคนเราในปัจจุบันเป็นผลมาจาก สรรถภาพตามธรรมชาติหรือพันธุกรรม ระดับวุฒิภาวะ (Maturity) และผลจากการเรียนรู้ในอดีตด้วย

อ้างอิง           
             ชาญชัย อินทรประวัติ.[online] http://www.kroobannok.com/blog/45566.ความสำคัญของการเรียนรู้.สืบค้นเมื่อ 21/06/58.
             พงษ์พันธุ์  พงษ์โสภา.(2542).จิตวิทยาการศึกษา.กรุงเทพมหานคร สำนักพิมพ์พัฒนาการศึกษา.                                                                                                                                     วารินทร์ สายโอบเอื้อ.(2529).จิตวิทยาการศึกษา.กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์สยามยูเนี่ยน พริ้นติ้ง.

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ความหมายการเรียนรู้

ความหมายการเรียนรู้          
             วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี   (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99ได้กล่าวถึงความหมายของการเรียนรู้ไว้ว่า
          การเรียนรู้ หมายถึง การได้รับความรู้ พฤติกรรม ทักษะ คุณค่า หรือความพึงใจ ที่เป็นสิ่งแปลกใหม่หรือปรับปรุงสิ่งที่มีอยู่ และอาจเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์สารสนเทศชนิดต่าง ๆ ผู้ประมวลทักษะของการเรียนรู้เป็นได้ทั้งมนุษย์ สัตว์ และเครื่องจักรบางชนิด ความก้าวหน้าในการเรียนรู้เมื่อเทียบกับเวลามีแนวโน้มเป็นเส้นโค้งแห่งการเรียนรู้ (learning curve)
การเรียนรู้ของมนุษย์อาจเกิดขึ้นจากส่วนหนึ่งของการศึกษา การพัฒนาส่วนบุคคล การเรียนการสอน หรือการฝึกฝน การเรียนรู้อาจมีการยึดเป้าหมายและอาจมีความจูงใจเป็นตัวช่วย การศึกษาว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้อย่างไรเป็นส่วนหนึ่งของสาขาวิชาประสาท                                                     จิตวิทยา (neuropsychology) จิตวิทยาการศึกษา (educational psychology) ทฤษฎีการเรียนรู้ (learning theory) และศึกษาศาสตร์(pedagogy) การเรียนรู้อาจทำให้เกิดพฤติกรรมการเรียนรู้ (habituation) หรือการวางเงื่อนไขแบบดั้งเดิม (classical conditioning) ซึ่งพบในสัตว์หลายชนิด หรือทำให้เกิดกิจกรรมที่ซับซ้อนมากขึ้นอย่างเช่นการเล่น ซึ่งพบได้เฉพาะในสัตว์ที่มีเชาวน์ปัญญา การเรียนรู้อาจก่อให้เกิดความตระหนักอย่างมีสำนึกหรือไม่มีสำนึกก็ได้
          (http://www.vcharkarn.com/lesson/1625) ได้รวบรวมความหมายของการเรียนรู้ไว้ว่า การเรียนรู้ หมายถึงการเรียนรู้ (Learning) ตามความหมายทางจิตวิทยา หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลอย่างค่อนข้างถาวร อันเป็นผลมาจากการฝึกฝนหรือการมีประสบการณ์ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงที่ไม่จัดว่าเกิดจากการเรียนรู้ ได้แก่ พฤติกรรมที่เป็นการเปลี่ยนแปลงชั่วคราว และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เนื่องมาจากวุฒิภาวะ
      (http://www.baanjomyut.com/library_2/psychology_of_learning/01.html)                         ได้กล่าวถึงการเรียนรู้ไว้ว่า   การเรียนรู้ คือการเปลี่ยนแปลงของบุคคลอันมีผลเนื่องมาจากการได้รับประสบการณ์ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเหตุทำให้บุคคลเผชิญสถานการณ์เดิมแตกต่างไปจากเดิม ประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหมายถึงทั้งประสบการณ์ทางตรงและประสบการณ์ทางอ้อม
                สรุป 
                ความหมายของการเรียนรู้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลแต่ละคน อันเนื่องมาจากการได้รับความรู้  การได้รับประสบการณ์ ทักษะ รวมไปถึงการฝึกฝนต่างๆ
           อ้างอิง
          วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.[online] https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.ความหมายการเรียนรู้.สืบค้นเมื่อ 16/มิ.ย./58.
        http://www.vcharkarn.com/lesson/1625 http://www.vcharkarn.com/lesson/1625.ความหมายการเรียนรู้.สืบค้นเมื่อ 16/มิ.ย./58.                                                                                             
        http://www.baanjomyut.com/library_2/psychology_of_learning/01.htmlhttp://www.baanjomyut.com/library_2/psychology_of_learning/01.html.ความหมายการเรียนรู้.สืบค้นเมื่อ16/มิ.ย./58.